บทความนี้ปรับจากการสัมภาษณ์ทาง Podcast โดยทิชา ชูลเลอร์จาก Adamantine Energy
มาฟังเกี่ยวกับงานสำคัญของแมตต์ และความกระตือรือร้นของเขาในการช่วยให้เอ็กซอนโมบิลลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างสรรค์ทางออกด้านพลังงานที่ยั่งยืนอย่างที่สังคมต้องการ
คำถาม: ช่วยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับบทบาทของคุณที่เอ็กซอนโมบิล ในฐานะหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมด้วยค่ะ
Matt Kolesar: บทบาทหลักของผมคือช่วยประสานงานและพัฒนากลยุทธ์ระดับโลก เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจที่มีความแตกต่างและหลากหลายของเรา ตั้งแต่การสำรวจขุดเจาะแหล่งปิโตรเลียมและน้ำมันจากชั้นหินดินดาน ไปจนถึงโครงการพัฒนาใต้น้ำลึก รวมทั้งบริษัทปิโตรเคมี และโรงกลั่นน้ำมัน มีเรื่องมากมายที่ต้องติดตามดูแล และผมทำงานร่วมกับผู้นำระดับสูงของบริษัทหลายท่าน
นี่เป็นงานในฝันของผมมานานแล้ว ผมมีความสนใจจริงจังที่จะช่วยแก้ปัญหายาก ๆ แบบนี้เสมอ ผมชอบการแข่งขัน สำหรับผมแล้ว การได้ชัยชนะในเรื่องนี้ คือการช่วยให้เอ็กซอนโมบิลมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน
Q: คุณจะพูดถึงบทบาทของเอ็กซอนโมบิลในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานว่าอย่างไร?
MK: งานของเราในการหาทางออกเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ก่อนการก่อตั้งธุรกิจ Low Carbon Solutions ตัวอย่างหนึ่งก็คือ เรากำลังหาโอกาสใหม่ ๆ ในการดักจับคาร์บอน ไปทั่วโลก เราเปิดตัวโครงการที่เป็นความใฝ่ฝันอันแรงกล้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในพ.ศ. 2593 [1] โดยภายในปี 2573 เราวางแผนจะลดความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากบริษัทลงร้อยละ 20-30 ลดความเข้มข้นของมีเทนถึงร้อยละ 70-80 และลดความเข้มข้นของการเผาทิ้งก๊าซส่วนเกินจากการปฏิบัติงานทั่วทั้งบริษัทลงร้อยละ 60-70
แผนที่ชัดเจนพร้อมผลลัพธ์ในเชิงปริมาณ ยังคงเป็นแก่นแท้ในวัฒนธรรมของเราตลอดมา และเพื่อให้เป็นไปตามนั้น เราจึงสำรวจสินทรัพย์หลักในการดำเนินธุรกิจของเราทั่วโลกอย่างครอบคลุม การสำรวจดังกล่าวหรือที่เราเรียกว่า “โรดแม็ป” จะช่วยกำหนดโอกาสต่าง ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการวางแผนที่ซับซ้อน ขณะที่เราทำงานในโรงงานของเราทั่วโลก เพื่อให้บรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในพ.ศ.2593
Q: คุณจะเรียกว่ามันเป็นช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงของบริษัทเลยได้ไหม
MK: ในฐานะบริษัทที่มีวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์อยู่มากมาย เรารักความท้าทาย นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรของเรา เป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ ขณะที่ผลิตภัณฑ์หรือวิธีแก้ปัญหาบางอย่างของเราอาจดูแตกต่างจากที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นการดักจักและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) เชื้อเพลิงชีวภาพ ไฮโดรเจน หรือทางออกที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ต้องใช้ความเชี่ยวชาญที่มีอยู่แล้วของพนักงานของเราให้เป็นประโยชน์ ดูที่การดักจับคาร์บอน ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับใต้พื้นผิวดิน นักธรณีวิทยา และนักธรณีศาสตร์ของเราสามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่สำรวจหาสารไฮโดรคาร์บอนต่าง ๆ ไปจนถึงการหาทางกักเก็บคาร์บอน
ในกรณีของไฮโดรเจน โรงงานผลิตของเรา ผลิตไฮโดรเจนมานานหลายทศวรรษแล้ว เรายังไม่ได้แสวงหาผู้มีชุดทักษะใหม่ๆ หรือสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ขนาดใหญ่ขึ้นมา ธุรกิจใหม่อย่าง Low Carbon Solutions สร้างขึ้นมาเพื่อพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ โดยใช้ชุดทักษะเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องโอ้อวดเรื่องศักยภาพของตลาดใหม่ ๆ เหล่านี้เลย เราประเมินว่าแค่ CCS อย่างเดียวก็จะเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่า 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐแล้ว เมื่อถึงปี 2593
Q: มีเทนก็เคยเป็นส่วนสำคัญของความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซของเอ็กซอนโมบิลเช่นกัน คุณจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้สักนิดไหม
MK: การลดมีเทนสามารถทำได้โดยตรงมากกว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ที่อาจจำเป็นต้องทำในอีก 30-50 ปีข้างหน้า ทุกวันนี้เรามีเครื่องมือบางอย่างที่น่าตื่นเต้น ซึ่งสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ได้เร็วขึ้น เราเพิ่งประกาศถึงการทำงานที่ใช้เซ็นเซอร์ภาคพื้นดินอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งที่ใช้ในอากาศหรือบนเครื่องบิน เรารู้ว่าต้องมีการใช้ดาวเทียมในการหาทางออกนี้
แต่ผมเตือนตัวเองว่าให้ถ่อมตัวไว้ก่อน เมื่อห้าปีที่แล้วยังไม่มีเทคโนโลยีเหล่านี้เลย และก็คงจะซื่อเกินไปที่จะคิดว่ามันจะไม่มีวิวัฒนาการ เราต้องติดตามความก้าวหน้าใหม่ๆ ๆ
Q: แล้วงานที่พนักงานรุ่นใหม่ทำจะเป็นอย่างไร คุณมองเห็นอะไรในคนรุ่นหนุ่มสาวเหล่านี้
MK: คนรุ่นหนุ่มสาวชอบมากที่จะได้จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ในขณะที่ยังตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของโลกที่กำลังเติบโตได้ พวกเขาอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างทางออกด้านพลังงาน ส่วนหนึ่งของงานที่ผมทำ คือช่วยให้บุคลากรเข้าใจถึงวิธีที่จะทำให้บทบาทของพวกเขาที่เอ็กซอนโมบิลช่วยพัฒนาการแก้ปัญหาเรื่องคาร์บอนต่ำ หรือทักษะของพวกเขาจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร เมื่อมีการเดินหน้าโครงการของเราในอนาคต
Q: เมื่อพูดถึงโครงการในอนาคต เอ็กซอนจะใช้เงิน 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดระยะเวลาห้าปีข้างหน้า เล่าให้ฟังสักหน่อยได้ไหมว่าเงินทุนนี้จะสนับสนุนอะไรบ้าง
MK: เราใช้เงินจำนวนมากพอดูกับงานในหัวข้อกว้าง ๆ อย่างการดักจับคาร์บอน ไฮโดรเจน และเชื้อเพลิงชีวภาพ เราดักจับคาร์บอนได้มากกว่าบริษัทอื่นใดในโลก และยังคงเพิ่มจำนวนการปฏิบัติงานด้าน CCS ของเราต่อไป เมื่อปีที่แล้ว เราประกาศเรื่องศูนย์ฮูสตัน ซึ่งเป็นความคิดที่เรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่ที่ว่า “เรามีศูนย์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในฮุสตัน ซึ่งมีอุตสาหกรรมต่าง ๆ จำนวนมาก เราจึงชวนกันดักจับคาร์บอนที่ปล่อยออกมา”
ตัวเลขที่คาดการณ์ไว้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ เราจะสามารถแยกคาร์บอนออกมาได้ปีละ 100 ล้านเมตริกตัน ภายในพ.ศ.2583 นอกจากเอ็กซอนโมบิลแล้ว มีบริษัทอื่นอีกไม่มากที่สามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เราประกาศเปิดโรงงานไฮโดรเจนสีน้ำเงินที่โรงกลั่นเบย์ทาวน์ ไฮโดรเจนสีน้ำเงินผลิตจากก๊าซธรรมชาติ โดยใช้การดักจับและกักเก็บคาร์บอนเข้ามาช่วย คาดว่าโครงการนี้จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขอบเขตที่ 1 และ 2 ของที่นั่นได้ถึงร้อยละ 30
15,000 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นตัวเลขที่สูงมาก แต่ก็เป็นสัญญาณถึงความมุ่งมั่นของเราในการแก้ปัญหานี้ เท่ากับเป็นการยอมจ่ายและแสดงความมุ่งมั่นอย่างที่สังคมกำลังต้องการ เพื่อแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อนมากนี้
เป็นความท้าทายครั้งหนึ่งในชีวิตของคนเรา และผมรู้สึกตื่นเต้นกับอนาคตข้างหน้า
[1] การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระยะที่ 1 และระยะที่ 2 สำหรับสินทรัพย์ในการดำเนินธุรกิจภายในพ.ศ. 2593