การแสวงหาทางไปสู่อนาคตใหม่ด้านพลังงาน จะนำโลกไปสู่การพัฒนาหลายเส้นทางที่แตกต่างกัน เพื่อให้จัดหาพลังงานสำหรับทุกคนได้สำเร็จ โดยเฉพาะประเทศที่กำลังเติบโต

แอนดรูว์ แบรี่ รองประธาน ฝ่ายการตลาดก๊าซธรรมชาติเหลวของเอ็กซอนโมบิล อธิบายให้ฟังระหว่างการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ในปี 2565 เกี่ยวกับการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลวให้กับตลาดเอเชีย โดยได้กล่าวว่า สิ่งที่จะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ ก้าวไปข้างหน้า ปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพทั่วเอเชียแปซิฟิก และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ คือการเข้าถึงพลังงานที่มีราคาเหมาะสมได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน

คาดกันว่าความต้องการพลังงานของโลกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ภายในปีพ.ศ.2593 พร้อมๆ กับที่ชนชั้นกลางของประเทศที่กำลังเติบโตมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เพิ่มการใช้พลังงานอีกสี่เท่าจากปริมาณที่ลดลงไปแล้วของประเทศที่พัฒนาแล้ว แบรี่กล่าว

การเติบโตนี้มีส่วนทำให้ระดับของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรม และการใช้พลังงานของโลกเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากกระบวนการผลิตสินค้าจำเป็นและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เหล็ก ปูนซีเมนต์ อลูมิเนียม แก้วและเคมีภัณฑ์ ต้องใช้พลังงานปริมาณมาก ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซที่ยากจะลดลงได้

สิ่งเหล่านี้นับเป็นความท้าทายหลายลำดับชั้น ทั้งในการพยายามตอบสนองความต้องการพลังงานที่กำลังเติบโตของผู้คน การขยายขีดความสามารถของพลังงานให้มีการปล่อยก๊าซต่ำลง และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เพื่อให้เกิดความสมดุลในเรื่องดังกล่าว ประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา สามารถใช้แหล่งพลังงานที่หลากหลายผสมผสานกัน อย่างพลังงานทดแทน ไฮโดรเจน หรือเชื้อเพลิงที่มีการปล่อยก๊าซต่ำ รวมถึงแนวทางต่าง ๆ ในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดปริมาณคาร์บอนโดยรวม

แนวทางเกี่ยวกับพลังงานที่จะช่วยให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

แนวทางที่หลากหลายเกี่ยวกับพลังงาน จะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ เกิดการพัฒนาไปพร้อมกับการลดการปล่อยก๊าซ

นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่ลดการปล่อยก๊าซอย่างการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) ยังสามารถใช้ร่วมกับภาคการผลิตกระแสไฟฟ้า เพราะยังไม่มีวิธีการใดเพียงหนึ่งเดียวที่จะขจัดคาร์บอนออกจากเครือข่ายที่เชื่อมต่อ เพื่อการกระจายกระแสไฟฟ้าไปยังที่อยู่อาศัยและภาคอุตสาหกรรมที่มีอยู่ในโลกได้

“แหล่งที่มีการปล่อยก๊าซต่ำทั้งหมดมีบทบาทสำคัญ” แบรี่กล่าว “และหนึ่งในทางออกที่จะช่วยขจัดคาร์บอนได้สำเร็จคือก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะเป็นทางเลือกคาร์บอนต่ำแทนถ่านหิน”

“เมื่อใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตกระแสไฟฟ้า มันจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าถ่านหินถึงร้อยละ 60 ดังนั้น ก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า จะเป็นทางเลือกที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ทันทีในการผลิตขนาดใหญ่ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซของโลกในประมาณมากและปรับปรุงคุณภาพอากาศ”

การผลิตก๊าซธรรมชาติยังมีความยืดหยุ่น และทำให้พลังงานทดแทนสามารถเข้าถึงได้มากกว่าด้วย ซึ่งจะสนับสนุนการใช้งานร่วมกัน และพัฒนาไปสู่ขั้นตอนใหม่ของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

“เมื่อเรามุ่งหน้าไปในอนาคต เรามองเห็นศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ในการรวมกิจกรรมต่างๆ ที่สัมพันธ์และเชื่อมโยงกันเพื่อสร้างคุณค่าให้กับก๊าซธรรมชาติเข้ากับ CCS เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเชื้อเพลิงอย่างไฮโดรเจน ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและการขนส่งเชิงพาณิชย์ที่ขจัดคาร์บอนออกได้ยาก” เขากล่าว

แบรีกล่าวต่อไปว่าแหล่งพลังงานเหล่านี้และเทคโนโลยีที่ลดการปล่อยก๊าซ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลที่มองไปข้างหน้า จะสามารถเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

“ความต้องการใช้พลังงานเป็นความต้องการที่เป็นสากล” แบรี่กล่าว

“เอ็กซอนโมบิลกำลังทำงานเพื่อพัฒนาหาทางออกที่ชาญฉลาดและสามารถขยายขนาดได้ รวมทั้งวิธีการใหม่ ๆ ที่จะช่วยขจัดคาร์บอนในภาคส่วนที่มีการปล่อยมากที่สุด ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต การผลิตกระแสไฟฟ้าและระบบขนส่งต่าง ๆ เพราะทางออกด้านภูมิอากาศไม่ได้มีแค่ทางเดียว ยังมีอีกหลายทาง” แบรี่อธิบาย

บนเส้นทางสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานโลก แนวทางต่าง ๆ ทั้งหมดและเทคโนโลยีที่จะช่วยให้โลกพัฒนาไปสู่ขั้นตอนใหม่ด้านพลังงาน ยังเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม

Tags

  • icon/text-size
You May Also Like

สำรวจ เพิ่มเติม

เชื้อเพลิงทางเลือกที่ปล่อยก๊าซต่ำ เพื่อการขนส่งในอนาคต