นอนนี่ อีรี่ ได้เลือกวิถีทางของตนเองและเปลี่ยนโฉมหน้าของการขนส่งทางเรือในปาปัวนิวกินี ประเทศบ้านเกิดของเธอ การเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำหน้าที่ควบคุมการขนถ่ายที่คลังส่งออกก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ความสำเร็จนี้ใช้เวลาสร้างถึงหนึ่งทศวรรษ และนำนอนนี่จากเรือขึ้นมาบนฝั่งและทำหน้าที่สำคัญที่คลังส่งออกของโครงการก๊าซธรรมชาติเหลวปาปัวนิวกินี เพื่อดูแลให้เรือบรรทุกขนถ่ายก๊าซอย่างปลอดภัยและทันเวลาที่กำหนด
โครงการก๊าซธรรมชาติเหลวของปาปัวนิวกินีมูลค่า 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้มากกว่า 8.3 ล้านตันต่อปี ทำให้มีการส่งพลังงานจากปาปัวนิวกินีไปยังจุดหมายปลายทางได้ทั่วเอเชีย
ในเส้นทางความสำเร็จของเธอที่ท่าเรือ นอนนี่ทำงานร่วมกับกลุ่มสตรีชาวปาปัวนิวกินีอื่น ๆ ที่ตอนนี้มีตำแหน่งเติบโตขึ้นมาตามลำดับ จนบาครั้ง จะมีแต่ผู้หญิงทำงานตลอดทั้งกะ
“ฉันประหลาดใจไม่น้อยเมื่อหัวหน้ากะของเรือบรรทุกก๊าซถามว่าตอนนี้ที่สถานีมีแต่ผู้หญิงเท่านั้นหรือที่ทำงานกะกลางคืน” นอนนี่กล่าว
นอนนี่กล่าวว่าทีมขนส่งทางทะเลที่ท่าเรือของคลังก๊าซเคยมีแต่ผู้ชายเท่านั้น แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว
“หลายครั้งที่มีแต่ผู้หญิงทำงานกับฉัน ตั้งแต่หัวหน้างานรักษาความปลอดภัยตามประตูต่าง ๆ เจ้าหน้าที่เทคนิคฝ่ายจัดเก็บและขนถ่าย ไปจนถึงผู้ปฏิบัติงานในห้องควบคุมส่วนกลางที่คอยช่วยฉันให้ขนถ่ายก๊าซลงเรือจนแล้วเสร็จ”
นอนนี่เป็นส่วนหนึ่งของทีมก๊าซธรรมชาติเหลวในปาปัวนิวกินีที่ได้รับรางวัลความปลอดภัยในการปฏิบัติงานยอดเยี่ยมเป็นรางวัลแรกจากสภาการเหมืองแร่และปิโตรเลียมของปาปัวนิวกินี สำหรับการทำงานตลอดห้าปีโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ทั้ง ๆ ที่มีผู้หญิงตื่นตัวตามเธอมากขึ้น แต่นอนนี่ไม่ได้ยึดติดกับผลกระทบที่เธอเป็นผู้สร้างขึ้นมา
“ฉันไม่ได้สนใจว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่ทำงานนี้ได้สำเร็จ เพราะฉันไม่เคยมองว่างานนี้เป็นงานของผู้หญิงหรือผู้ชาย มันเป็นงาน ๆ หนึ่ง และใครก็ตามที่สนุกกับสิ่งที่ทำ ด้วยการทำงานอย่างหนักและทุ่มเทจนเชี่ยวชาญก็สามารถทำงานนี้ได้” เธอกล่าว
นอนนี่มุ่งทำงานในอาชีพเกี่ยวกับการเดินเรือทางทะเลมาตลอด และตอนที่เธอเริ่มต้นชีวิตการทำงานในทะเลนั้น เธอต้องการทำมากกว่าแค่แล่นเรือออกไปในทะเล
เธอกล่าวว่าประสบการณ์ในฐานะผู้ควบคุมการขนถ่ายก๊าซที่บรรทุกเรือมาเป็นครั้งแรกที่คลังก๊าซธรรมชาติเหลวทางทะเล เป็นประสบการณ์ที่ปนเปกันระหว่างความตื่นเต้นและความวิตกกังวล ความสำเร็จนี้ นับเป็นบทสุดท้ายของการออกสู่ทะเลของเธอในตอนแรก
“การอยู่ในแนวหน้าของห่วงโซ่อุปทานเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ และยังทำให้วงจรการเดินเรือทั้งหมดครบสมบูรณ์สำหรับฉัน”
แม้จะมีความก้าวหน้าในอาชีพในองค์กรขนส่งทางทะเล และเครือข่ายท่าเรือ นอนนี่กล่าวว่าเธอยังคงเปิดกว้างเพื่อจะดูว่าบทบาทที่เธอได้รับ – และเอ็กซอนโมบิล – จะพาเธอไปที่ไหนต่อไป
“ฉันเต็มใจจะไปในที่ ๆ สายลมจะพัดพาฉันไปกับงานนี้ ถ้ามันพัดฉันออกนอกเส้นทางอย่างสิ้นเชิงไปจบลงบนพื้นดินอีกครั้ง ฉันก็พร้อมที่จะลองดู”
