เชื้อเพลิงชีวภาพที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่ได้มาจากพืชผลทางการเกษตร อ้อยและข้าวโพดใช้ทำเอทานอล ขณะที่ไบโอดีเซลทำจากน้ำมันพืชอย่างถั่วเหลือง
อย่างไรก็ตาม เชื้อเพลิงชีวภาพที่ทำจากสาหร่าย และชีวมวลจากเซลลูโลส (กากจากพืชเช่นซังข้าวโพดและฟางข้าวสาลีที่มีอยู่อย่างมากมาย) สามารถเป็นแหล่งเชื้อเพลิงทดแทนได้โดยไม่แย่งแหล่งอาหารหรือน้ำจืด เชื้อเพลิงชีวภาพแบบก้าวหน้าเหล่านี้มีศักยภาพที่จะผลิตได้ในปริมาณมาก และได้มาจากแหล่งต่าง ๆ ที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
แล้วเชื้อเพลิงชีวภาพแบบก้าวหน้าจะเป็นเชื้อเพลิงสำหรับวันพรุ่งนี้ที่จะใช้ในการขนส่งและปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลงได้หรือไม่? จากการผลิตจนถึงการเผาไหม้ ต่อไปนี้คือเหตุผลเจ็ดประการที่ทำให้เอ็กซอนโมบิลคิดว่าคำตอบคือ เป็นไปได้:
แหล่งเชื้อเพลิงชีวภาพใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์: เช่นเดียวกับพืชทั้งหลาย แหล่งชีวมวลจากเซลลูโลสใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศในการเจริญเติบโต สาหร่ายใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อการเติบโตเช่นกัน โดยใช้กระบวนการสังเคราะห์แสงเช่นกัน
เป็นเชื้อเพลิงที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำกว่า: ในวงจรชีวิตหนึ่งของสาหร่ายและเชื้อเพลิงชีวภาพจากเซลลูโลส จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณครึ่งหนึ่งของเชื้อเพลิงที่ได้จากปิโตรเลียม
ให้ผลผลิตสูง: จากเทคโนโลยีปัจจุบัน สาหร่ายหนึ่งเอเคอร์จะให้ผลผลิตเป็นเชื้อเพลิงมากกว่า 7,570 ลิตร เปรียบเทียบกับ 2,460 ลิตรต่อเอเคอร์ที่ได้จากน้ำมันปาล์ม และ 190 ลิตรจากน้ำมันถั่วเหลือง เรากำลังทำงานเพื่อทำให้สาหร่ายให้ผลผลิตที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต
เปลี่ยนของเสียให้เป็นเชื้อเพลิง: ชีวมวลจากเซลลูโลสใช้วัสดุที่เป็นกากจากพืช เช่น ส่วนที่เหลือจากพืชผล อย่างซังข้าวโพด ขี้เลื่อย และเศษไม้อื่น ๆ
เก็บเกี่ยวได้ตลอดปี: สาหร่ายสามารถเก็บเกี่ยวซ้ำได้ตลอดทั้งปี ต่างจากวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ข้าวโพด ซึ่งจะเก็บเกี่ยวได้เพียงปีละครั้งเดียวเท่านั้น
เป็นมิตรต่อแหล่งอาหาร: สาหร่ายสามารถเพาะปลูกบนดินที่ไม่เหมาะต่อการใช้งานอื่น และใช้น้ำที่ไม่ได้ใช้สำหรับการผลิตอาหาร ส่วนชีวมวลจากเซลลูโลสก็สามารถผลิตได้จากกากพืชผลทางการเกษตรหรือชีวมวลจากไม้ ซึ่งไม่เป็นการแย่งจากแหล่งอาหารอีกด้วย
พร้อมใช้งานกับเครื่องยนต์: เชื้อเพลิงที่ได้จากสาหร่ายและวัสดุเซลลูโลสสามารถสูบเข้ารถยนต์เครื่องดีเซลที่มีอยู่ได้เลย โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์และโครงสร้างพื้นฐานของรถ