อินโดนีเซียเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตติดอันดับหนึ่งในห้าของโลกภายในปีพ.ศ. 2593
ชาวอินโดนีเชียทั้งหมดมีส่วนขับเคลื่อนการพัฒนานี้ อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบัน ผู้หญิงก็ยังมีโอกาสไม่เท่ากับผู้ชายในการสร้างความเจริญเติบโตของอินโดนีเซีย
แต่แนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนไป เพราะสตรีชาวอินโดนีเซียจำนวนมากขึ้น เริ่มมีบทบาทในเวทีระดับชาติ และใช้ความเสมอภาคที่เพิ่มขึ้นนี้ ทำให้อินโดนีเซียดีขึ้นกว่าเดิม
วันสตรีสากลช่วยให้ผู้หญิงทั่วโลกที่กำลังทำงานเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิงนอกเหนือจากที่เคยมีมาแต่เดิม ได้รับความสนใจมากขึ้น
Energy Factor ขอพูดถึงสตรีชาวอินโดนีเซียสามคนที่สะท้อนจิตวิญญาณของวันสตรีสากลให้เห็นเป็นรูปธรรม และสร้างผลกระทบต่ออนาคตของประเทศ
ปาเทร็ม เยนิ ฟาติมาห์ เป็นเกษตรกรที่ทำงานให้ความรู้แก่ชุมชนต่าง ๆ ในภูมิภาคโบโจเนโกโร เพื่อช่วยให้ผู้คนในชุมชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไป
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการขับเคลื่อนชุมชนให้เกิดการตระหนักรู้ด้านสุขภาพ (Aku Sehat) ในโบโจเนโกโร ซึ่งเป็นโครงการให้ความรู้ด้านสุขภาพที่เอ็กซอนโมบิลในเซปุมีส่วนริเริ่ม เธอรับหน้าที่สอนเรื่องสุขนิสัยที่ดี
ปาเทร็มกล่าวว่า “ฉันมีความสุข ถ้าได้ช่วยให้ผู้คนปรับความคิดและพฤติกรรมให้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ทุกคนมีสุขภาพดี
“ฉันหวังว่าจะมีกลุ่มคนรุ่นหนุ่มสาวที่ได้รับการฝึกฝนให้เป็นผู้ดูแลด้านสุขภาพได้ดีกว่าที่ฉันเป็นอยู่ในตอนนี้ เพื่อให้ชุมชนของเราสามารถเดินหน้ากลายเป็นชุมชนที่มีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้นไปอีก”
ฟลอเรนตินา ฮัทมิ หรือที่รู้จักกันในชื่อมิมี เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกวัยรุ่นสองคน และทำงานเป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นต่อไป ผ่านการทำงานและการดูแลครอบครัว ในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงอินโดนีเซียก้าวไปให้ไกลยิ่งขึ้น
เธอเริ่มอาชีพในวงการธนาคาร และตอนนี้เธอเป็นรองประธานฝ่ายการเงินของเอ็กซอนโมบิล อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นที่ ๆ เธอสอนให้ผู้หญิงเห็นความสำคัญของการเป็นอิสระและพึ่งพาตนเองได้
“เราไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคู่สมรสของเราในอนาคต การเป็นอิสระและพึ่งพาตนเองได้เป็นเรื่องสำคัญอย่างแท้จริง เราต้องพยายามทำอะไรก็ตามที่เราชอบให้สนับสนุนบทบาทต่างๆ ของเรา (ทั้งในการทำงานและที่บ้าน)” มิมีกล่าว
มิมีปลูกฝังเรื่องการเป็นอิสระและพึ่งพาตนเองแบบเดียวกันนี้ให้กับลูก ๆ ของเธอ
เธอกล่าวว่าในความหมายที่กว้างขึ้น การเป็นอิสระและพึ่งพาตนเองได้ของผู้หญิง เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของประเทศ ซึ่งโดยปกติแล้วมักมีผู้หญิงเข้าไปทำงานจำนวนไม่มาก
ศรี อินทัน วิรยา ทำงานในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซเช่นกัน พูดให้เฉพาะเจาะจง ก็คือที่เอ็กซอนโมบิล อินโดนีเซีย ซึ่งมีพนักงานเกือบหนึ่งในสี่เป็นผู้หญิง สัดส่วนนี้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลกที่มีอยู่ประมาณร้อยละ 15 มากทีเดียว
ศรี อินทัน กล่าวว่า เธอกำลังนำประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เรียนรู้จากการทำงานทั่วโลกกลับมาที่อินโดนีเซีย และสอนสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวของเธอ
“ลึก ๆ แล้ว บางครั้ง ฉันก็ยังสงสัยในความสามารถของตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อต้องติดต่องานกับกลุ่มต่าง ๆ ที่มีแต่ผู้ชาย” เธอกล่าว
“(อย่างไรก็ตาม) การได้รับมอบหมายให้ทำงานระหว่างประเทศ ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ฉัน ทำให้ฉันเชื่อว่าจะสามารถทำงานต่าง ๆ ในองค์กรระหว่างประเทศ ในอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่ยังคงมีแต่ผู้ชายทำงานได้” เธอกล่าว
เธอกระตุ้นให้ลูกสาวของเธอซึมซับความเชื่อมั่นนี้ เพื่อสร้างอนาคตให้ดีขึ้น และช่วยนำความเท่าเทียมกันมาสู่อินโดนีเซียให้มากขึ้น
ผู้หญิงในอินโดนีเซียแต่ละคนกำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของตน โดยต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของความคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งรวมเอาคนอื่น ๆ ที่ได้รับการปลูกฝังให้มีจิตวิญญาณเดียวกัน ผู้หญิงทั้งหมดนี้กำลังช่วยเปลี่ยนแปลงอินโดนีเซีย และขับเคลื่อนประเทศของพวกเธอไปบนเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในชาติมหาอำนาจของโลก
